เรียกว่าได้ทียกผลงานขึ้นมาคุยเลยงานนี้สำหรับทางด้านของ โจเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่คนเก่ง ปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษหลังทีมอย่าง ไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส หนึ่งในคู่แข่งลุ้นแย่งแชมป์ลีกฤดูกาลนี้สามารถเอาชนะ ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่จากลาลีกา สเปนในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มไปได้ 3-1 โดยชี้ว่าการที่ทีมดังแห่งกรุงลอนดอนเอาชนะได้ทั้ง ลิเวอร์พูล และ เรอัล มาดริด ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันยอดเยี่ยม ดังนั้นแมตช์ที่ตนเองพาลูกทีมเชือด ไก่เดือยทอง ไปได้ 1-0 ก็ควรจะต้องได้รับคำชื่นชมแทนที่จะโดนกระแสวิจารณ์โดยเฉพาะเรื่องของสไตล์การเล่นที่ไม่เน้นเกมรุกเท่าที่ควรอย่างที่โดนอยู่เวลานี้
ทั้งนี้ แมนฯยูไนเต็ด ของกุนซือ โจเซ่ มูรินโญ่ ถือว่าทำผลงานในช่วงโค้งแรกของฤดูกาลนี้ได้ดีทีเดียว เมื่อสามารถรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงในตารางคะแนนลีกได้หลังผ่านเกมการแข่งขันไป 10 เกม ขณะที่ในเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มก็เอาชนะคู่แข่งได้ 4 เกมรวด โอกาสทะลุเข้าสู่รอบน็อกเอ้าท์ต่อไปสดใส ทว่าด้วยรูปแบบการเล่นตามสไตล์การทำทีมของนายใหญ่ชาวโปรตุกีสที่เน้นผลการแข่งขันมากกว่าการเดินหน้าเล่นเกมรุกเพื่อคว้าชัยชนะในทุกๆเกมกลับทำให้ เร้ดเดวิลส์ เจอกับเสียงวิจารณ์แทนที่จะได้รับคำชื่นชม
อย่างไรก็ตามนายใหญ่ เดอะสเปเชี่ยลวัน มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมนักที่ตนเองและลูกทีมได้รับการตำหนิ ตรงกันข้ามสมควรได้รับเครดิตด้วยสำหรับแมตช์ที่สามารถคว่ำทีมอย่าง สเปอร์ส ลงได้ “จริงๆผมไม่อยากแสดงความเห็นหรอกนะ เพราะถ้าผมพูดออกไปมันก็เหมือนกับผมได้ทำงานที่ไม่ใช่งานของผม ใช่ เกมฟุตบอล ฟอร์มการเล่นอาจมีการวิเคราะห์กันไปในหลายรูปแบบ บางทีมเล่นเหมือนกันแต่กลับบอกว่าฟอร์มเยี่ยม ทว่าพอฟอร์มแบบนั้นเกิดกับอีกทีมกลับกลายเป็นว่าเล่นแย่ ผมขอยกตัวอย่างแบบนี้ละกัน สเปอร์ส สามารถเอาชนะทั้ง ลิเวอร์พูล และ เรอัล มาดริด ได้ แต่พวกเขาแพ้เรา ซึ่งมันชัดเจนว่าทีมของผมควรได้รับเครดิต”
