เรียกได้ว่าเป็นกุนซือที่ยึดมั่นในปรัชญาและแนวทางการทำทีมของตนเองสูงมากสำหรับทางด้านของ โจเซป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่มันสมองชาวสแปนิชของทีม เรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ ยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพราะไม่ว่าเจ้าตัวจะไปคุมทีมไหนก็ยังคงมีสไตล์การทำทีมและการคัดเลือกผู้เล่นเข้ามาอยู่ในแผนการทำทีมของตนเองเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลให้ โจ ฮาร์ท มือกาวทีมชาติอังกฤษที่อยู่เป็นมือหนึ่งให้กับทีมแห่งเอติฮัต สเตเดี้ยมมาหลายปี ถูกตัดออกจากทีมและโละส่งไปให้ โตริโน่ ทีมกัลโช่ เซเรีย อา ยืมตัวใช้งานในซีซั่นนี้ อย่างไม่ใยดีถึงสถานะเดิมของนักเตะเลย แม้ว่าจะกล่าวผ่านสื่อว่าทราบดีว่ามือประตูรายนี้เข้าขั้นผู้เล่นระดับตำนานของทีม เรือใบสีฟ้า แล้วก็ตาม
ทั้งนี้ ก่อนที่อดีตนายใหญ่ บาร์ซ่า และ บาเยิร์น จะเข้ามารับตำแหน่งในถิ่นเอติฮัตสเตเดี้ยม ฮาร์ท ถูกคาดหมายว่าน่าจะยังได้ยืนเป็นหนึ่งของทีมต่อไป แม้ว่านักเตะจะมีช่วงที่ฟอร์มหลุดลุ่ยไปบ้างก็ตาม เพราะเมื่อมองกันที่คุณภาพแล้วก็ยังถือว่าเป็นมือประตูชั้นนำในยุคนี้
ทว่า หลังจากซีซั่นเริ่มต้นขึ้นกลับเป็น วิลลี่ กาบาเยโร่ นายประตูมือสองในยุคของ เปเยกรินี่ ที่ได้โอกาสให้ลงทำหน้าที่มือหนึ่งของทีมแทน และก็ยังได้ดึงเอา เคลาดิโอ บราโว่ นายประตูทีมชาติชิลี เข้ามาเพื่อเป็นมือหนึ่งตัวจริงในระยะยาวอีกด้วย ที่สุดแล้วอนาคตของ ฮาร์ท จึงต้องลงเอยด้วยการเก็บข้าวของออกจากทีมไปแบบยืมตัวดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูระดับตำนานของพรีเมียร์ลีกออกมากล่าวแสดงความเห็นถึงสิ่งที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำว่า “เขาตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่าต้องการ บราโว่ เพราะ บราโว่ คือประตูที่ใช้เท้าเล่นได้ดี (ออกบอลจากแดนหลังดี) เขาต้องการเปลี่ยนแปลงทีม และก็ได้แสดงให้เห็นถึงจุดยืนในการทำงานของเขา”
